ลัทธิพราหมณ์หรือฮินดูก่อน พระพรหมานั้นว่า มีกำเนิดมาจากไข่ คือ ในสมัยที่โลกยังว่างเปล่าอยู่ พระอาตมภู (ผู้เกิดเอง) มีความประสงค์จะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นในโลก จึงสร้างน้ำขึ้นก่อน แล้ววทรงเอาพืชหว่านลงในน้ำจากพืชนั้นได้บังเกิดเป็นไข่ทอง ต่อมาไข่นี้แตกออกปรากฏเป็นองค์พระพรหมาอยู่ในนั้น บางคัมภีร์ว่าเปลือกไข่ได้แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งอยู่เบื้องบนได้กลายเป็นฟ้า อีกซีกหนึ่งอยู่เบื้องล่างได้กลายเป็นแผ่นดิน แต่ในบางคัมภีร์กล่าวว่า เดิมทีนั้น มีพระเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียวคือ พระนารายณ์ ซึ่งเรียกกันว่า ปรพรหม คือ พระผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง เมื่อพระนารายณ์ผู้เป็นปรพรหมทรงรำพึงถึงการจะสร้างโลก ได้ทรงคำนึงถึงการที่จะต้องบำรุงรักษาโลกไว้ด้วย ไม่ได้คิดแต่จะสร้างอย่างเดียว แต่ปรพรหมนั้นเป็น อรูปกเทพ คือ หาตัวตนมิได้ เมื่อไม่มีตัวมีตน ก็ไม่สามารถจะทำกิจคือการสร้างนั้นได้จึงทรงแบ่งภาคของพระองค์เองขึ้นเป็น รูปกเทพ คือ เทพที่มีรูปร่างเป็นตัวตนขึ้นมา แล้วพระนารายณ์องค์เดิมจึงประทานพรแก่พระนารายณ์องค์ใหม่ว่าดูก่อน วิษณุ ท่านจงเป็นผู้สร้างสิ่งทั้งปวง ท่านจงเป็นผู้บริหารโลกทั้งสามให้เรียบร้อย เป็นที่เคารพนับถือของชนทั้งหลาย จงเป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างมีอานุภาพอันใหญ่ยิ่ง และท่านจงปฏิบัติตามปรารถนาแห่งพระพรหมตลอดจนเทวดาทั้งปวง
เมื่อพระปรพรหมประทานพรแก่พระนารายณ์องใหม่ดังนี้แล้ว ก็คืนเข้าสู่ความเป็นธรรมดาแห่งพระองค์ ฝ่ายพระวิษณุ เมื่อทรงรำพึงถึงการที่ได้กำเนิดมา จึงบรรทมหลับไป ในขณะบรรทมหลับนี้เอง ได้ทรงสุบินถึงการสร้างสิ่งต่างๆและในขณะเดียวกัน ได้มีดอกบัวบังเกิดผุดขึ้นจากพระนาภี ในใจกลางดอกบัวหลวงนั้น มีพระพรหมเกิดขึ้น และพระพรหมองค์นี้เป็นผู้สร้างมนุษย์อมนุษย์ และสัตว์ในโลก
พาหนะของพระพรหมกล่าวกันต่างๆ มีหงส์เป็นพาหนะบ้าง นารายณ์สิบปางกล่าวว่า พระพรหมธาดา บันดาลให้เกิดเป็นสุวรรณหงส์ขึ้นเป็นพาหนะประทับบนรถมีหงส์เจ็ดตัวลากบ้าง ในพรหมโลกมีมเหสีชื่อว่า พระสรัสวดี (ในมัตสยาปุราณะว่า พระพรหมาได้สร้างนางขึ้นองค์หนึ่งมีนามว่า สตรูปา หรือ สรัสวดี เพื่อให้ช่วยกันสร้างสัตว์, มนุษย์, เทวดา อสูร และสรรพพืชต่างๆ)a
นามของพระพรหมมีเรียกใช้กันอยู่มากมายหลายชื่อ เช่น
- ธาตา (ธาดา) ผู้สร้าง บางทีเรียกว่า พระพรหมธาดา ก็มี
- อาตมภู ผู้เกิดเอง หรือเป็นขึ้นด้วยตนเอง
- ประชาปติ (ประชาบดี) เป็นใหญ่ในประชา
- โลเกศ เป็นเจ้าโลก
- หิรัณยครรภ์ เกิดแต่ท้อง (ไข่) ทอง ดังประวัติข้างต้น
- กมลาศน์ นั่งบนดอกบัวหลวง
- สวิตฤปติ ภัสดาแห่งนางสวิตฤ หรือสาวิตรี
- อทิกวี กระวีที่ ๑
- จัตุรมุข สี่หน้า
- อัษฎกรรณ แปดหู
ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพรหมสร้างโลกแล้วก็จะนอนพักหลับไปและพระพรหมนั้นนอนครั้งหนึ่งนานมาก คือ นอนหลับครั้งละกัลป์ (กัลป์หนึ่งเท่ากับ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ ปีสวรรค์ และปีหนึ่งของสวรรค์เท่ากับ ๓๖๐ ปีมนุษย์)
พระคาถาที่บูชา
โอม พรหมเณ นะมะ
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
เมตตา – สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มีสุข
กรุณา – สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มีทุกข์
มุทิตา – ยินดีในการบุญ
อุเบกขา – วางเฉยในบาป